| จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
| {{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
| คงเหลือ | 1 อัน |
| จำนวน (อัน) |
- +
|
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 อัน
|
|
|
|
|
| คุยกับร้านค้า | |
| {{ size_chart_name }} |
|
| หมวดหมู่ | สินค้าจำหน่ายแล้ว |
| สภาพ | สินค้าใหม่ |
| เพิ่มเติม | |
| สภาพ | สินค้ามือสอง |
| เกรด | |
| สถานะสินค้า | |
| ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
| เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
| ไฮไลท์ |
แหนบหนีบกระเป๋าเสื้อติดรูปถ่าย พระเกศา หลวงพ่อพระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒิ) เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
|
| ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
| รายละเอียดสินค้า |
พระราชอุทัยกวี เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานีมรณภาพแล้วไปเกิดเป็นพรหมอนาคามี “...เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานีคือ เจ้าคุณราชอุทัยกวีท่านมรณภาพ ถ้าจำไม่ผิดก็เป็นวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๓๓ ความตายของท่านนี่อัศจรรย์อย่างยิ่ง เป็นการตายที่ไม่เคยมีใครคิดว่าท่านจะตาย แต่เรื่องความตายมันเป็นของธรรมดา แต่เท่าที่ทราบมาในกาลก่อนท่านบอกว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๐ คืนวันนั้นทำท่าจะตายครั้งหนึ่ง ท่านป่วยมากอาการไม่ดี ตอนนั้นก็ไม่มีใครคิดว่าท่านจะอยู่ ในคืนนั้นท่านเรียกพระครูประชุม เจ้าคณะอำเภอ เข้าไปบอกด้วยวาจาด้วย ให้บันทึกเสียงด้วยและให้บันทึกเป็นหนังสือด้วย เรื่องการเงินและอะไรก็ตามมีที่ไหนเท่าไร ท่านจำได้ดีสั่งเสียเรียบร้อย ท่านบอกว่า “ถ้าฉันจะตายคืนนี้ก็ต้องตายภายในระยะ ๒ ยาม ถ้าเลย ๒ ยามไปแล้วจะยังไม่ตาย” นี่ก็แสดงว่าก่อนจะพูดแบบนี้ต้องมีคนมาบอก คนในที่นี้ต้องมีร่างกายเป็นทิพย์เหมือนกับท่านธัมมิกอุบาสก ก่อนจะตายก็เห็นเทวดามาล้อมบอกฉันอยู่ชั้นนั้น ฉันอยู่ชั้นนี้ ไปอยู่กับฉันเถอะ ท่านเจ้าคุณราชอุทัยกวี หลวงพ่อองค์นี้ก็เช่นเดียวกัน ท่านก็คงจะต้องสัมผัสติดต่อกันมาก่อน ถึงได้บอกแบบนี้ เป็นอันว่าคืนวันนั้นหลังจาก ๒ ยามไปแล้ว อาการร่อแร่เต็มทีของท่านหายไป กลับกลายเป็นมีกำลังดีเหมือนกับหายจากการป่วยไข้ไม่สบาย ตอนที่อาตมารับสมณศักดิ์เลื่อนเป็นชั้นราชได้ไปนมัสการท่าน เห็นท่านมีสุขภาพดีและก็ปกติทุกอย่าง หายจากโรคภัยไข้เจ็บ พวกเราก็ดีใจ เพราะว่าท่านเป็นพระดีจริงๆ ตรงไปตรงมาและมีคุณธรรมจริงๆ รวมความว่าท่านอยู่มาอีก ๓ ปี จนถึงวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๓๓ ท่านก็มรณภาพ การตายของท่านตามที่ทราบมาเป็นอย่างนี้ เขาบอกว่าในตอนเช้าคนส่งหมูทราบว่าท่านชอบหมูเขาก็นำหัวหมูที่ปรุงแล้วมาถวาย และก็ชอบมะม่วงเขาก็เอามะม่วงไปถวาย ตอนเช้าฉันได้มาก ต่อมาท่านเรียกคนปฏิบัติมาเป็นสตรีอายุมากแล้ว ให้ไปหยิบปฏิทินร้อยปีมาดูอายุ ท่านบอกว่า “อายุตั้ง ๙๕ ปี จะให้มันตายเสียทีมันก็ไม่ตาย อยู่ไปก็ลำบาก ร่างกายไปไหนไม่สะดวก” ก็พูดกันแบบคนที่มีความรู้สึกตามความเป็นจริง เรียกกันว่า นักวิปัสสนาญาณแท้ ตอนสายท่านเรียกธนาคารมาขอตรวจดูเงินในบัญชี หลังจากนั้นแล้วท่านก็จำวัด ก็เป็นอันว่าการจำวัดของท่านครั้งนี้ไม่ต้องจำกันอีกต่อไป จำได้ตลอดกาลตลอดสมัยนั่นคือท่านตาย เวลาที่เขานำอาหารเพลไปถวายปรากฏว่าเลิกหายใจแล้ว ต่อมาวันรุ่งขึ้น วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๓๓ ตอนบ่ายอาตมาลงรับแขก วันนั้นไม่ค่อยมีใครจะคุยด้วยหาคนคุยด้วยยาก ก็เลยคุยเรื่องท่านเจ้าคณะจังหวัด ท่านเจ้าคุณราชอุทัยกวี บอกว่าพระองค์นี้ฉันเคารพเหมือนพ่อของฉัน เคยพูดกับท่านก็เคยพูด เรื่องการทำบุญก็เหมือนกัน ทำบุญทุกครั้งนิมนต์ท่านๆ จะมาหรือไม่มาก็ตาม ต้องถวายเครื่องสักการะตามสมควร ถือว่าท่านมาไม่ได้แต่เอาใจมาได้ ในสมัยเมื่อท่านยังป่วยอยู่ร่างกายไม่ดีนักพอทนไหว ท่านมา ตอนหลังท่านไม่ไหวจึงมาไม่ได้ ในเมื่อกายมาไม่ได้ก็ถือว่าใจมาได้ ในเมื่อใจมาก็ส่งเครื่องสักการะฝากท่านเจ้าคณะอำเภอไป ขณะที่นั่งคุยถึงธรรมะ ไม่ทราบว่าใครเป็นคนถามอาการตายของท่านเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี ได้ถามว่า “เวลานี้มีความรู้สึกว่าท่านไปไหน” ถ้าถามอย่างนี้ก็ตอบกันไม่ยาก ตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดว่าเวลานี้ท่านเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานีอยู่วัดทุ่งแก้ว หมายความว่าศพของท่านอยู่ที่นั่น แต่พอตอบเท่านั้นสิ่งที่แปลกก็เกิดขึ้นนั่นคือ มีภาพ ๒ ภาพ ภาพหนึ่งเป็นภาพเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี เจ้าคุณราชอุทัยกวี หรือเรียกว่า หลวงพ่อราชอุทัยกวี ก็แล้วกัน ท่านอยู่ข้างหน้า แต่ภาพข้างหลังเป็นพรหม สวยงามมาก แพรวพราวเป็นระยับ นึกในใจว่าภาพอย่างนี้ลองหรี่ตาก็เห็น ลองหลับตานึกก็เห็น ลืมตาก็เห็น อย่างนี้ไม่ใช่อำนาจความเป็นทิพย์ของจิตของบุคคลผู้พูด ต้องถือว่าเป็นกำลังของท่านผู้ตายบันดาลให้เห็น อย่างที่ท่านทั้งหลายไม่เคยเห็นผีแล้วย่องไปเห็นเข้านั่นแหละ ถ้าผีบันดาลให้เห็นก็เห็นได้ เรื่องนี้ก็เหมือนกันเป็นเรื่องของผีบันดาล เมื่อเห็นภาพท่านแล้วก็นึกจะยกมือไหว้ ก็เกรงเขาจะหาว่าบ้า อยู่ๆ ก็ไหว้อากาศ และก็ไหว้ไปข้างหน้าคนที่เป็นฆราวาส มันก็จะไม่เหมาะ ก็เอาใจไหว้นึกไหว้ในใจ ท่านก็ยกมือรับไหว้แล้วก็ยิ้ม อาตมาถามท่านว่า “หลวงพ่อขอรับ ไปอยู่ที่ไหน” ท่านบอกว่า “เวลานี้ไปอยู่อนาคามี” ก็ถามว่า “ทำไมไม่ไปเลยเล่าขอรับ มันอีกนิดเดียว อนาคามีกับนิพพานเป็นของไม่ไกล” ท่านบอกว่า “อีตอนก่อนจะไปมันมีกังวลเรื่องเงินนิดหน่อย” ถามว่า “แก่แล้วยังห่วงสตางค์หรือ” ท่านก็เลยบอกว่า “เรื่องสตางค์ส่วนตัวนั่นไม่ห่วง ห่วงเรื่องเงินสงฆ์เกรงว่าจะผิดพลาด แต่ก็ไม่มีอะไรสำคัญ จิตสะดุดนิดเดียวก็เลยจำต้องพักอยู่แค่เขตของอนาคามี” เป็นอันว่าวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๓๓ ก็เป็นวาระที่ท่านตัดความทุกข์ ต่อไปนี้ก็มีแต่ความสุข ขึ้นชื่อว่าความทุกข์สักนิดหนึ่งจะไม่มีกับท่านอีกต่อไป เพราะเขตของอนาคามีเป็นเขตที่มีความสงัดจากความทุกข์ทุกอย่าง ต่อจากนั้นไปก็เข้าเขตนิพพาน เวลานี้เขาพูดกันว่าไม่มีพระอรหันต์ ไม่มีพระอริยเจ้าก็ตาม ขอท่านทั้งหลายจงอย่าลืมว่า โลกที่โกหกมีโลกเดียว คือ โลกมนุษย์ เวลานี้อาตมาพูดตามผีบอก และโลกที่ไม่โกหก คือ โลกอื่นไม่ใช่โลกมนุษย์ ฉะนั้น เวลานี้ท่านไปอยู่โลกอื่นแล้ว ท่านต้องพูดตามความเป็นจริง...” ในภาพ ประกอบด้วย พระราชอุทัยกวี (พุฒ สุทฺตมหาเถระป.ธ.๕ ) เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี เจ้าอาวาสวัดมณีสถิตกปิฏฐารามพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วีระ ถาวระมหาเถระ) วัดท่าซุงจันทาราม ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
| เงื่อนไขอื่นๆ |
|
| Tags |
kampanart วัตถุมงคล
